1. ชื่อสมุนไพร กระวาน
ชื่อวิทยาศาสตร์ Amomum testaceum Ridl.
ชื่อวงศ์ ZINGIBERACEAE
ชื่อพ้อง A. krervanh Pierre
ชื่ออังกฤษ Camphor seed, Clustered cardamom, Siam cardamom
ชื่อท้องถิ่น กระวานขาว, กระวานดำ,ปล้าก้อ
2. ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
พืชล้มลุก มีลำต้นใต้ดินเรียกว่าเหง้า ส่วนที่อยู่เหนือดินสูงได้ถึง 3 เมตร ก้านใบเป็นกาบยาว ใบเรียงสลับกัน แผ่นใบรูปขอบขนาน หรือขอบขนานแกมรูปไข่ ปลายใบและโคนใบแหลม ขอบใบเรียบ ดอกออกจากเหง้าเป็นช่อรูปกระบอง กลีบดอกสีเหลืองอ่อน ผลกลมติดเป็นพวง เปลือกเกลี้ยง เป็นพู มีสีนวล เมล็ดมีขนาดเล็ก สีน้ำตาลแก่จำนวนมาก ทั้งผลและเมล็ดมีกลิ่นหอมคล้ายการบูร
3. ส่วนที่ใช้เป็นยาและสรรพคุณ
-ส่วนผลแก่ รักษาอาการแน่น จุกเสียด
4. สารสำคัญที่ออกฤทธิ์
น้ำมันหอมระเหยมีฤทธิ์ขับลม และสาร cineole ที่สามารถลดการบีบตัวของลำไส้ได้
5. ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา
5.1 ฤทธิ์ขับลม
น้ำมันหอมระเหยจากกระวานมีฤทธิ์ขับลม
5.2 ฤทธิ์ลดการบีบตัวของลำไส้
สารสกัดด้วยน้ำและแอลกอฮอล์ในอัตราส่วน 1:1 สารสกัดด้วยน้ำ สารสกัดด้วยเหล้า และน้ำมันหอมระเหย มีผลลดการบีบตัวของลำไส้เล็ก
5.3 ฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย
น้ำมันหอมระเหยและสารสกัดด้วยเอทานอลจากผลกระวาน มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียบางชนิด เช่น Pseudomonas aeruginosa และ Salmonella sp.
6. อาการข้างเคียง
ยังไม่มีรายงาน
7. ความเป็นพิษทั่วไป
7.1 การทดสอบความเป็นพิษ
การทดสอบในสัตว์ทดลองพบว่าเมื่อให้สารสกัดกระวานแก่หนูแรทและหนูเม้าส์โดยการกินหรือการฉีดเข้าใต้ผิวหนัง ไม่พบความเป็นพิษ แต่การให้น้ำมันหอมระเหยจากกระวาน พบพิษปานกลางในหนูเม้าส์ แต่ไม่พบการก่อกลายพันธุ์ต่อแบคทีเรียในหลอดทดลอง
8. วิธีการใช้
8.1 การใช้ผลกระวานรักษาอาการแน่น จุกเสียด ตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข (สาธารณสุขมูลฐาน)
เอาผลแก่จัดมาตากแห้ง แล้วบดให้เป็นผง รับประทานครั้งละ 1 ช้อนชาครึ่ง โดยชงกับน้ำอุ่น
8.2 ยาจากสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติ
ไม่มี
ขอบคุณข้อมูล :
สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล